วันศุกร์ ที่ 28 ต.ค. 65) เวลา 11.00 น.

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
ผบช.ภ.7

พร้อมด้วย
พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย
ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่
รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.ธนะสิทธิ ปานศรี
รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์
รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.อภิชาติ ศรีทองกุล
รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.ศุภชัย ไตรสมบูรณ์
นวท.(สบ.5) ศพฐ.7
พ.ต.อ.สรวิชญ์ บัวกลิ่น
ผกก.สภ.ท่าเรือ
พ.ต.อ.ณัฐพิสิษฐ์ รัตนอุดมพล
ผกก.สส.1บก.สส.ภ.7
พ.ต.อ.ณรงค์ธรรม มาศศีรีวงศ์
นวท.(สบ.4)พฐ.จว.กาญจนบุรี
พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 2 คดี
1.คดีจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 1 ราย ได้แก่
1.1 นายสมโชค หรือปุ๊ เผือกเงิน อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ จ.549/2565 ลง 27 ต.ค. 65
พร้อมด้วยของกลางในคดี

  1. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ oppo (ของผู้ตาย) จำนวน 1 เครื่อง ตรวจยึดจากห้องพักผู้ต้องหา
    พฤติการณ์แห่งคดี
    เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 65 เวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ท่ามะกา ว่ามีผู้พบศพหญิงสาวลอยอยู่ในคลองชลประทาน (คลองท่าสาร – บางปลา) หมู่ 1 ตำบลดอนชะเอม อำเภอ่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
    พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดกาญจนบุรี พบศพผู้เสียชีวิต (ทราบภายหลังชื่อ น.ส.ฟาริดา โสภา อายุ 27 ปี) สภาพศพไม่สวมเสื้อนอก สวมเสื้อชั้นในสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมรองเท้า ลักษณะเริ่มเน่าอืดส่งกลิ่นเหม็น มีร่องรอยสัตว์กัดแทะ ห่างจากศพประมาณ 500 เมตร พบรถจักรยานยนต์ตกอยู่ในคลองเดียวกันกับที่เกิดเหตุ
    เบื้องต้นผลการชันสูตรพลิกศพของผู้ตาย แพทย์ระบุว่า พบมีบาดแผลที่ลำคอของผู้เสียชีวิต ถูกของมีคมเฉือนที่ลำคอ แผลลึกจนตัดหลอดลมขาด เป็นสาเหตุของการเสียชีวิต จึงพิสูจน์ได้ว่า เกิดจากการฆาตกรรรม
    จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายทำงานเป็นคนรับจ้างชงสุราตามแต่จะมีคนว่าจ้าง และได้แอบมีความสัมพันธ์ชู้สาวอยู่กับ นาย สมโชค หรือปุ๊ เผือกเงิน อายุ 37 ปี ซึ่งในวันเกิดเหตุ เพื่อนของผู้ตายทราบว่า ผู้ตายได้มีการคุยโทรศัพท์กับนายสมโชคฯ โดยมีการนัดหมายไปเจอกัน แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อผู้ตายได้อีก จนกระทั่งพบเสียชีวิตดังกล่าว
    ต่อมาวันที่ 27 ตุลาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม พบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเชื่อว่า นายสมโชคฯ เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว จึงยื่นขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับที่ จ549/2565 ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”
    ต่อมาในวันเดียวกัน เจ้าพนักงานตำรวจได้ติดตามจับกุม นายสมโชคฯ ได้ในเขตอ.ท่ามะกา และทำการตรวจค้นบ้านพักของนายสมโชคฯ พบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายในบริเวณบ้านของนายสมโชคฯ จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดกาญจนบุรีตรวจยึดเป็นของกลางในคดี นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.ท่ามะกา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

2.คดีจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ พร้อมอาวุธปืน จำนวน 2 ราย ได้แก่
2.1. นาย สามารถ หรือแมน กลิ่นจันทร์ อายุ 38 ปี
2.2. น.ส.กนิษฐา ศรีพูนพัน อายุ 18 ปี
พร้อมด้วยของกลางในคดี ได้แก่
1.ยาบ้า ประมาณ 12 มัด หรือ 24,000 เม็ด
2.ยาไอซ์ ประมาณ 1 ขีด หรือ 100 กรัม
3.อาวุธปืนพกสั้น ไม่มีทะเบียน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก
4.เครื่องกระสุนปืนขนาด.38 จำนวน 1 กล่อง 40 นัด และอีก 6 นัด ในรังเพลิง
5.รถยนต์เก๋ง ทะเบียน กข808 ราชบุรี
ฐานความผิด “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับ
อนุญาต และเป็นการกระทำเพื่อการค้า และ ร่วมกันครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่รับอนุญาต”
วัน เวลา สถานที่ เกิดเหตุ
วันที่ 27 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 08.30 น. บริเวณถนนริมคลองชลประทาน ม.๒ ต.อุดลกสี่หมื่นอ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
พฤติการณ์แห่งคดี
จากการสืบสวนเบาะแสยาเสพติดของ สภ.ท่าเรือ ได้รับข้อมูลจากสายลับ แจ้งว่า นาย สามารถ หรือแมนฯ มีพฤติการณ์ จำหน่ายยาเสพติดมาส่งให้กับผู้ค้ารายย่อยในเขต ต.อุโลกสี่หมื่น โดยใช้ยานพาหนะ รถเก๋ง ฮอนต้า ซิตี้ หมายเลขทะเบียน 808 ราชบุรี เป็นยานพาหนะ
ต่อมาวันนี้เวลา ประมาณ 08.30 น. รับแจ้งจากสายลับว่า นายสามารถ หรือแมน ฯ จะนำยามาส่งบริเวณจุดเกิดเหตุ จึงได้ดักซุ่มจนถึงเวลาเกิดเหตุ พบรถเก๋ง ฮอนต้า ซิตี้ หมายเลขทะเบียน 808 ราชบุรี ขับผ่านมา จึงได้แสดงตัว เข้าตรวจค้น พบตัว นายสามารถ หรือแมนฯ ขับขี่รถยนต์มีลักษณะคล้ายกับที่สายลับให้ข้อมูลโดยมี น.ส.กนิษฐา ศรีพูนพัน อายุ 18 ปี นั่งมาด้วย ผลการตรวจค้นพบของกลางใน รถยนต์คันที่นายสามารถ หรือแมน ฯ ขับมาพร้อมด้วย น.ส.กนิษฐาฯ จึงจับกุมตัวพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.ท่าเรือ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้รอบคอบ เพื่อให้สามารถดำเนินคดีลงโทษผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้องได้จนถึงที่สุด ตามคติที่ว่า”คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์” และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรมกัยทุกฝ่าย

ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่พี่น้องประชาชน และจะสืบสวนขยายผลถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย

ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

ณ สภ.ท่ามะกา ต.ท่ามะกา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี