วันพฤหัสบดีที่ 7 ก.ค. 65) เวลา 15.30 น.
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7
พร้อมด้วย
พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา
รอง ผบช.ภ.7
พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม
รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี
พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน
รอง ผบก.สส.ภ.7
พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ
ผกก.กก.3 บก.สส.ภ.7
พ.ต.อ.ครรชิต โขวัฒนชัย
ผกก.สส.ภ.จว.เพชรบุรี
พ.ต.อ.วายุภักษ์ วงศ์ศักดิรินทร์
ผกก.สภ.ชะอำ
และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอุกฉกรรจ์ กรณี “คนร้ายกระหน่ำแทงยาย 30 กว่าแผล ดับคาบ้าน ในพื้นที่ สภ.ชะอำ” จำนวน 1 ราย คือ
นายนนทพัทธ์(หรือเจมส์ )เสาวสาร อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 197/2565 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้าย และบุกรุกเข้าไปในเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธ”
พร้อมด้วยของกลางในคดี ได้แก่
- รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ สี ชมพู-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน (รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุและหลบหนี)
- เสื้อยืดแขนยาว สี น้ำเงิน-ขาว จำนวน 1 ตัว (เป็นเสื้อที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ)
- หมวกลายพราง จำนวน 1 ใบ (เป็นหมวกที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ)
- รองเท้าแตะแบบสวม สี ดำ-ขาว จำนวน 1 คู่ (เป็นรองเท้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ)
- เสื้อยืดแขนยาว สี ขาว จำนวน 1 ตัว (เป็นเสื้อที่ใช้เปลี่ยนหลังก่อเหตุ)
พฤติการณ์โดยย่อ
ด้วยเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565( เวลา 12.40 น.)ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากลูกสาวของผู้เสียชีวิต ว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีดจนเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 1365/283 ถ.จอมพล ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พนักงานสอบสวนเวร พร้อมสายตรวจและชุดสืบสวน จึงได้ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุและบริเวณโดยรอบ จากนั้นได้แจ้งรูปพรรณสัณฐาน และยานพาหนะที่ใช้หลบหนี ให้ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ทราบ และได้ทำการวิทยุสั่งการให้ชุดสายตรวจทุกจุด ดำเนินการตามแผนก้าวสกัด ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหญิงสูงอายุนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณประตูห้องโถงภายในบ้าน โดยสภาพศพของนางสุธาสินี พันธุ์สวัสดิ์ พบบาดแผลคล้ายถูกของมีคมแทงที่ลำตัวจำนวนหลายครั้ง และบริเวณกำแพงของบ้านที่เกิดเหตุพบร่องรอยการปีนเข้าออก และจากการสืบสวนทำให้ทราบลักษณะรูปพรรณคนร้ายและรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ในการขับขี่มาก่อเหตุ
จากการสืบสวนโดยการร่วมบูรณาการของชุดสืบสวนได้สืบทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายนนทพัทธ์หรือเจมส์ เสาวสาร อายุ 24 ปี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับจากศาลจังหวัดเพชรบุรี ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้าย และบุกรุกเข้าไปในเคหสถานโดยใช้กำลัง ประทุษร้าย โดยมีอาวุธ” ซึ่งศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้อนุญาตให้ออกหมายจับที่ 197/2565 ลง วันที่ 7 กรกฎาคม 2565
ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 ได้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบมาว่าหลังก่อเหตุ นายนนทพัทธ์หรือเจมส์ฯ ได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่เพิงพักสวนยางใน ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงติดตามไปทำการซุ่มสังเกตการณ์ และสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ที่เพิงพักดังกล่าว จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เก็บเสื้อและรองเท้าตามบัญชีของกลาง และรถจักรยานยนต์ของกลางไว้เป็นหลักฐาน นำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้รอบคอบ เพื่อให้สามารถดำเนินคดีลงโทษผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้องได้จนถึงที่สุด ตามคติที่ว่า “คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์” และกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานด้วยความรอบคอบตามหลักยุทธวิธีตำรวจที่ได้ฝึกทบทวนมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องข้าราชการตำรวจ ตามที่ ผบ.ตร. ได้ฝากข้อห่วงใย
ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชน และคืนความเป็นธรรมให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต
ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป ณ สภ.ชะอำ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี