หน่วยปฏิบัติการพิเศษภาค 2 – ตำรวจพัทยา จับผับเปิดเกินเวลา พบห่อพลาสติกบรรจุผงคล้ายยาเคตกเกลื่อน
เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ( 13 พ.ย. 65 ) พ.ต.ท.สุริยะ โพธิ์ทองนาค รอง ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.พิชิต ฉ่ำฮวบ สวป.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา ออกตรวจสอบสถานบันเทิง ตามย่านต่างๆ ในพื้นที่เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นการป้องปรามเหตุการณ์รุนแรงทุกรูปแบบ พร้อมทั้ง บังคับใช้กฏหมายในด้าน พรบ.ด้านสถานบริการ ให้ปิดตรงตามเวลาที่กฏหมายกำหนด โดยพบว่าสถานบันเทิงส่วนใหญ่ ค่อนข้างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
จนกระทั่งเวลา 02.30 น. ได้เข้าทำการตรวจสอบสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ชื่อ ไดร์ตี้ พัทยาผับ ( DIRTY PATTAYA PUB ) เลขที่ 47 / 126 ซอยก่อไผ่ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งกำลังจะปิดร้าน และ เริ่มเคลียร์ลูกค้าออก โดยพบว่า มีนักเที่ยวทั้งชายและหญิงกว่า 30 คน เริ่มทยอยเดินออกมาจากผับ ส่วนในร้านพนักงานกำลังเร่งเก็บขวดตามโต๊ะต่างๆ และ ทำความสะอาดร้าน

ตำรวจจึงแสดงตัวขอตรวจสอบ
ผลการตรวจสอบ ภายในร้าน พบผงเกล็ดสีขาวใส คล้ายกับยาเสพติดประเภทยาเค บรรจุอยู่ในซองพลาสติกโดยยังมีหลอดน้ำเสียบคาอยู่ ตกอยู่บริเวณทางเข้าห้องน้ำ จำนวน 1 ซอง นอกจากนี้ บริเวณลานจอดรถยังพบว่า พบ ซองพลาสติกใส แบบหูรูดปิด-เปิด ตกอยู่เกลื่อนพื้น กว่า 10 ซอง ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ส่องไฟฉายตรวจสอบภายในรถยนต์ทุกคันที่จอดอยู่ในลานจอดรถของผับดังกล่าว ปรากฏว่า พบถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน5 กว 139 กทม. บริเวณพื้นฝั่งที่นั่งข้างคนขับ พบถุงพลาสติก ลักษณะถุงใส่แกง มัดปากถุงด้วยหนังยางภายในถุง มีถุงพลาสติกแบบหูรูดปิด-เปิด บรรจุผงเกล็ดขาวใสเต็มซอง จำนวน 4-5 ซอง ตำรวจพยายามตามหาเจ้าของรถ ให้มาเปิดรถ แต่ก็ไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นตำรวจ ทำการจับกุม นางชุติมันต์ กิจเจริญ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/3 หมู่ 3 ต.สามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งรับเป็นผู้ดูแลสถานบันเทิงดังกล่าว ในข้อกล่าวหา เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต , จำหน่ายสุราเกินกว่าเวลาที่กฏหมายกำหนด ‘ ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ พร้อมทั่งควบคุมตัวส่ง สภ.เมืองพัทยา คดีตามกฏหมาย ส่วน สิ่งคล้ายยาเสพติด ประเภทยาเค ที่ยึดได้ทั้งหมด ได้ประสานไปยังกองพิสูจน์หลักฐาน นำไปตำรวจสอบดีเอ็นเอในการพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นเจ้าของในการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี สั่งปิดต่อไป