ผู้เสียหายร้อง บขส. หลังถูกพนง.รับส่งพัสดุทำร้ายร่างกายแย่งลูกค้า

ผู้เสียหาย เข้าพบผู้บริหาร บขส. หลังถูกพนักงานรับส่งพัสดุ ตบแย่งลูกค้า ต่อหน้าตำรวจ ขณะเข้าระงับเหตุ จนเหตุการณ์บานปลายต้องเรียกกำลังเสริม

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 พ.ค.65 ที่ผ่าน บริเวณใต้ทางด่วนฝั่งตรงข้ามสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต2) พนักงานรับส่งพัสดุ 2 บริษัท มีปากเสียงเรื่องแย่งลูกค้าแต่เหตุการณ์กลับบานปลาย ฝ่ายผู้ก่อเหตุเปิดฉากตบผู้เสียหายกันชุลมุน ผู้เสียหายจึงได้แจ้งตำรวจเข้ามาระงับเหตุ จากนั้น จนท.ตำรวจ สน.บางซื่อ เข้าระงับเหตุ
ฝ่ายผู้ก่อเหตุยังเข้ามาทำร้ายต่อหน้าตำรวจ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวิทยุขอกำลังเสริม เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเป็นผู้หญิง ขณะที่ชายคนหนึ่งของฝั่งผู้ก่อเหตุเกิดอาการคุ้มคลั่งตบหน้าตัวเองเอะอะโวยวาย ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมทั้งนำตัวผู้ก่อเหตุ และผู้เสียหายเข้าไปสอบสวนที่โรงพัก

โดยผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองเป็นพนักงานรับส่งพัสดุของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งในวันเกิดเหตุตนเองมาทำงานแทนพนักงานที่อยู่ประจำ ทันใดนั้นได้มีลูกค้ามาใช้บริการ แต่กลับถูกพนักงานสาวของบริษัทแห่งหนึ่งได้เข้ามาแย่งลูกค้าไป พร้อมทั้งอ้างว่าเป็นลูกค้าของเธอ ตนเองจึงได้พูดคุยแต่ไม่ได้ติดใจเอาความ ต่อมาคู่กรณีได้เข้ามาผลักอกหาเรื่อง เหมือนต้องการประกาศให้รู้ว่าเธอเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ ก่อนที่น้องชายของเธอจะเกิดอาการคุ้มคลั่ง เอะอะโวยวายจนต้องเรียกตำรวจมาระงับเหตุ ระหว่างนั้นพนักงานสาวคู่กรณีได้ปรี่เข้ามาตบต่อยตนเองจนใบหน้าเขียวช้ำ ไม่สนว่ามีตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ ก่อนที่ตำรวจ และคนที่เห็นเหตุการณ์จะเข้ามาห้ามปรามตามที่ปรากฏในคลิป

หลังเกิดเหตุตนเองได้แจ้งความกับตำรวจ สน.บางซื่อ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ก่อนที่จะไปรับการตรวจร่างกายที่ถูกคู่กรณีทำร้าย และในวันนี้ (11 พ.ค.65) ก็ได้เข้ามาร้องเรียนกับผู้บริหารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ด้วย

ขณะที่ นางสาวอัญชลี เรืองฉ่าง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารการเดินรถ บขส. กล่าวว่า ตนเองได้เห็นคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และทาง บขส.เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปยกเลิกสัญญากับผู้ประกอบการรับส่งพัสดุทั้งหมดในบริเวณที่เกิดเหตุ รวมถึงคู่กรณีที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทด้วย เพื่อเป็นการป้องกันเหตุซ้ำรอยที่จะเกิดขึ้นอีก ซึ่งการยกเลิกสัญญาดังกล่าวนั้น ทาง บขส. มีโครงการที่จะยกเลิกสัญญาอยู่ก่อนแล้ว เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวควบคุมปัญหาค่อนข้างยาก จึงเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม

ทั้งนี้ ตนเองในฐานะที่รับผิดชอบในหน้างานดังกล่าว จึงได้รับเรื่องร้องเรียนไว้ตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร โดยจะประสานผ่านคู่สัญญา เพื่อแจ้งให้รับทราบต่อไป ส่วนเรื่องคดีความนั้นคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ