รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม หลังได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนเพิ่มสูงขึ้น เอ่อล้นท่วมบ้านเรือน เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา
วันที่ 5 ตุลาคม 2564 ที่ศาลาวัดสำโรง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมคณะ ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี หลังได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนเพิ่มสูงขึ้น เอ่อล้นท่วมบ้านเรือน เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา
นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัย ที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีนผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี สู่จังหวัดนครปฐมในปริมาณมาก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำทำจีนเพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชนริมแม่น้ำ นอกแนวคันกั้นน้ำในพื้นที่อำเภอบางเลน นครชัยศรี และสามพราน ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา เบื้องต้นทั้ง 3 อำเภอ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 27 ตำบล 146 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,125 ครัวเรือน 8,141 คน ในส่วนของอำเภอนครชัยศรี ได้รับผลกระทบ 14 ตำบล 43 หมู่บ้าน รวม 1,459 ครัวเรือน 3,587 คน ปัจจุบันสถานการณ์น้ำของจังหวัดนครปฐมอยู่ในระดับเฝ้าระวัง โดยเฉพาะการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีนผ่านจังหวัดนครปฐม ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำ ซึ่งได้แจ้งเตือนให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์ และแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันความเสียหายอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น โดยการเสริมแนวคันกั้นน้ำ และสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ที่สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน และคลองลัด รวม 7 จุด จำนวน 63 เครื่อง ตลอดจนสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป


โอกาสนี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มอบถุงยังชีพ จำนวน 900 ถุง ให้กับนายอำเภอนครชัยศรี และกำนัน เพื่อนำไปมอบให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ตำบลต่างๆ จากนั้นได้นำถุงยังชีพ ไปมอบให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำท่าจีน จำนวน 4 หลังคาเรือน พร้อมกล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัย จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนในหลายจังหวัด ตลอดจนสิ่งสาธารณประโยชน์หลายแห่ง ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนจากผลกระทบดังกล่าว จึงเร่งให้ทุกหน่วยงานลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบพร้อมกับบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในเบื้องต้นเป็นการเร่งด่วน พร้อมทั้งเร่งฟื้นฟูเยียวยาภายหลังน้ำลดตามภารกิจของแต่ละหน่วยงานให้เต็มที่ เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว