วันนี้(วันพุธ ที่ 12 ต.ค. 65) เวลา 13.15 น.

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
ผบช.ภ.7

พร้อมด้วย
พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา
รอง ผบช.ภ.7
พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี
พล.ต.ต.กำธร อุ่ยเจริญ
ผบก.ศพฐ.7
พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ
รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี
พ.ต.อ.สุพมาส บัวลาด
รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี
พ.ต.อ.ศุภชัย ไตรสมบูรณ์
นวท.(สบ.5) ศพฐ.7
พ.ต.อ.ชัยรัตน์ บัวขม
ผกก.สภ.ปากท่อ
พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เป็นที่สนใจแก่ประชาชนและสื่อมวลชน คือ คือ นายใหญ่ สระศรี อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ที่ จ259/2565 ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2565 โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้, ชิงทรัพย์ ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป ปกปิดการกระทำความผิดนั้น ให้พ้นจากการจับกุมเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร”

พร้อมด้วยของกลางในคดี ได้แก่
1.อาวุธมีดความยาวรวมด้ามประมาณ 30 เซนติเมตร จำนวน 1 เล่ม พบวางอยู่ในเพิงพักที่ผู้ต้องหา พักอาศัยอยู่ (ผู้ต้องหายอมรับว่าได้ใช้ก่อเหตุในการแทงและปาดคอผู้เสียชีวิตจริง)
2.ธนบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 870 บาท พบอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าข้างขวาตัวที่ผู้ต้องหาสวมใส่ (ผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตที่ได้ชิงทรัพย์มาจริง)

พฤติการณ์แห่งคดี
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 65 เวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ปากท่อ ว่ามีผู้พบศพผู้เสียชีวิตที่หน้าบ้านเลขที่ 1 หมู่ 4 ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยรัตน์ บัวขม ผกก.สภ.ปากท่อ, พนักงานสอบสวนเวร, เจ้าหน้าที่สืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดราชบุรี พบศพผู้เสียชีวิต (ทราบภายหลังชื่อนางคั้ง ทองไร่ อายุ 67 ปี) มีบาดแผลถูกของมีคมบริเวณลำคอลึกถึงหลอดลมจำนวน 2 แผล, บริเวณหน้าอกด้านซ้ายถูกของมีคมแทงลึกประมาณ 4 ซม. จำนวน 1 แผล, บริเวณต้นขาข้างซ้าย จำนวน 1 แผล และ บริเวณข้อศอกด้านซ้าย จำนวน 1 แผล
จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบตัวบุคคลผู้ต้องสงสัยคือ นายใหญ่ สระศรี อยู่บ้านเลขที่ 206 หมู่ 4 ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เจ้าพนักงานตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบบ้านพักดังกล่าว พบนายใหญ่ สระศรี ยินยอมให้ตรวจสอบบ้านพักด้วยความสมัครใจ ผลการตรวจสอบพบอาวุธมีดในที่พักของนายใหญ่ สระศรี และธนบัตร จำนวนเงิน 870 บาท จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดราชบุรี ทำการตรวจยึดนำส่งตรวจพิสูจน์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เชื่อว่า นายใหญ่ สระศรีเป็นผู้ก่อเหตุ ดังกล่าว จึงยื่นขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดราชบุรี ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับที่ จ259/2565 ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้, ชิงทรัพย์ ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป ปกปิดการกระทำความผิดนั้น ให้พ้นจากการจับกุมเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ในวันเดียวกัน นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ปากท่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้มอบเงินจำนวน 10,000 บาท ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน และกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานโดยยึดหลักกฎหมายและรอบคอบตามหลักยุทธวิธีตำรวจที่ได้ฝึกทบทวนมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องข้าราชการตำรวจ ตามที่ ผบ.ตร. ได้ฝากข้อห่วงใย

ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชน

ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงครอบครัวผู้เสียชีวิต ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตและครอบครัว โดยจะรวบรวมพยานหลักฐาน สอบสวนอย่างตรงไปตรงมาปราศจากข้อสงสัยจากทุกฝ่าย ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

ณ ภ.จว.ราชบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี